Category Archives: เครื่องมือการทำ SEO

4 เทรนด์ SEO ในปี 2020 ที่กำลังเดินทางมา

4 เทรนด์ SEO ในปี 2020 ที่กำลังเดินทางมา

4 เทรนด์ SEO ในปี 2020 ที่กำลังเดินทางมา ข้างในงาน iCreator Conference Thailand 2019 ช่วงวันที่ เดือนพฤศจิกายน 2562 ก่อนหน้านี้ คุณพรเทวดา เขตร์รัมย์ ผู้จัดตั้งบริษัท GAT Consutancy แล้วก็ผู้ครอบครองเว็บ Google Analytics Thailand ได้เล่าถึงเทรนด์ SEO ที่กำลังเดินทางมาในปี 2020 นี้ว่า มี เทรนด์ที่น่าจับตา ว่าแต่ว่าจะมีหัวข้อใดบ้าง Marketing Oops! ได้สรุปมาฝากคนอ่านเป็นระเบียบแล้ว มาดูกันจ้ะ

1. Featured Snippets

Featured Snippets ฟังแต่ว่าชื่อ หลายท่านบางทีอาจไม่คุ้น แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว Featured Snippets เป็นฟีพบร์ของ SEO ที่มีมาครู่หนึ่งแล้ว Featured Snippets มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Answer Box หรือ Position Zero นั่นเอง

Feature

Featured Snippets เป็นข้อมูลที่ปรากฎบน Search Engine ของ Google ในตำแหน่งข้างบนสุด เมื่อตอนที่พวกเรากระทำ Search Google ไปด้วยประโยคที่เป็นปัญหา หรือ แนวทางการทำ (พวกประโยค What is, Why, How to ต่างๆ) จะมีคำตอบปรากฏขึ้นข้างบนสุด เพื่อตอบปัญหานั้นพื้นฐาน และก็อยู่ก่อนตำแหน่งของลิ้งค์เว็บที่ติดอันดับ 1-10 ของ Google นั่นแหละ เรียกว่า Featured Snippets

เนื่องจากว่า Featured Snippets จะได้อยู่ข้างบนสุดของการ Search Google ก็เลยทำให้ใครๆก็อยากที่จะให้เว็บ หรือ บทความของตัวเองมาอยู่ในตำแหน่งนี้ เพื่อได้ทำให้คนรู้จักกันเว็บของตัวเองก่อนผู้ใดกัน

สถิติที่เกิดจาก Featured Snippets

จากการศึกษาเล่าเรียนของ Ahrefs ในปี 2017 พบว่าสถิติเวลา Search Google จะพบ Featured Snippets อยู่ที่ 12.3% หรือราว 14 ล้านครั้งจากทั้งหมดทั้งปวง 112 ล้านครั้งของการ Search Google

ซึ่งจากการเรียนของ authorityhacker พบว่าสถิติของปี 2019 จะมองเห็นได้ว่าการ Featured Snippets นั้นมากเพิ่มขึ้นกว่าเดิม โดยมีการแสดงผลลัพธ์ถึง 20% (ในขณะที่ยังไม่หมดปี 2019)

ถ้ามองดูในด้านของ CTR หรือ Click to rate ของ Featured Snippets พบว่า ถ้าหากว่าไม่มี Featured Snippets จะมีการคลิกเว็บที่อยู่ในชั้น 1 ที่ราวๆ 26% แม้กระนั้นถ้าหากมี Featured Snippets ปรากฏ ยูสเซอร์คลิกที่เว็บชั้น 1 ต่ำลงเป็น 19.6% และก็เลือกที่จะคลิกที่ Featured Snippets มากยิ่งขึ้นเป็น 8.6%

นอกเหนือจากนั้นยังพบว่า อัตราโดยรวมของการคลิกเข้าไปยังเว็บนั้นจะน้อยลง ถ้าหากกระทำการ Search Google แล้วเจอ Featured Snippets จะก่อให้มีอัตราการคลิกเข้าเว็บอยู่ที่ 70.2% แต่ว่าเวลาเดียวกันแม้ Search แล้วไม่เจอ Featured Snippets จะมีอัตราการคลิกเข้าเว็บอยู่ที่ 74.2% มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะมีความเห็นว่าได้ไปอยู่ในตำแหน่งของ Featured Snippets นั้น มีอีกทั้งจุดเด่น ข้อผิดพลาด ที่ไม่เหมือนกัน

Featured Snippets มีจุดเด่น-ข้อบกพร่อง เช่นไร

จุดเด่น : ถ้าเกิดเว็บของคุณปรากฎอยู่ในตำแหน่งของ Featured Snippets ก็จะมีผลให้คนรู้จักกันเว็บของคุณได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าเว็บคุณ บางทีอาจมิได้ติดอันดับ 1 ของ Google แม้กระนั้นถ้าหากสามารถตอบปัญหาพื้นฐานได้ แล้วก็ Google มีความรู้สึกว่ารายละเอียดของคุณตอบปัญหาให้กับยูสเซอร์ได้ เว็บของคุณก็บางทีอาจจะมาปรากฎบนตำแหน่งของ Featured Snippets ได้ หรือชั้น 0 (Position Zero) ของ Google ได้นั่นเอง

จุดอ่อน : เมื่อจุดเด่นเป็นแนวทางการทำ Featured Snippets จะแสดงคำตอบพื้นฐานที่ยูสเซอร์ใคร่รู้ออกมา ก็เลยก่อให้เกิดจุดบกพร่องด้วยเช่นเดียวกัน มันก็คือ อาจส่งผลให้ทราฟฟิกสำหรับในการเข้าชมเว็บของคุณต่ำลงได้ เหตุเพราะยูสเซอร์จะได้รับคำตอบที่ช่วยไขข้อสงสัยที่ต้องการรู้ไปแล้ว

Feature Snippets สถิติ

จะต้องทำเช่นไร เว็บจะสามารถแสดงผลลัพธ์ตรง Featured Snippets ได้

ถึงแม้ว่าการทำ SEO จะมีกลเม็ดและก็วิถีทางที่ทำให้สามารถ Optimize ได้ แม้กระนั้นโชคร้ายที่ในส่วนของ Featured Snippets นั้นยังไม่อาจจะ Optimize ได้ เนื่องมาจาก Google จะเลือกเฟ้นหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุด เพื่อมาตอบปัญหาให้กับยูสเซอร์เอง แม้กระนั้นอย่างไรก็แล้วแต่ มีการเดาจากหลายๆแหล่งว่า Featured Snippets นั้นจะค้นหาคำตอบมาจากเว็บชั้น 1-5 ของ Google เพื่อมาแสดงผลลัพธ์ตรงตำแหน่งนี้ แต่ว่าก็ยังมิได้มีการรับรองจากที่ใด

การจะมีผลให้เว็บไปอยู่ในตำแหน่งของ Featured Snippets บางทีอาจไม่อาจจะ Optimize ได้ แต่ว่ายังมี 3 ทางที่เว็บต่างแดนชี้แนะว่า สามารถช่วยเพิ่มช่องทางให้บทความนั้นถูกนำไปแสดงผลลัพธ์ที่ Featured Snippets ได้ด้วยเหมือนกัน

ทางสำหรับการทำให้บทความติด Featured Snippets

เพียรพยายามเขียนเนื้อหาของบทความให้ตอบปัญหาจบในย่อหน้าแรก ย่อหน้าเดียว
จัดแจงกับหน้าเว็บให้ดี พูดอีกนัยหนึ่ง จัดแจงกับส่วนประกอบของเว็บ Headline ให้มีองค์ประกอบที่ดี มีการเรียงลำดับองค์ประกอบ เพื่อ Google กระทำค้นหาได้ง่ายรวมทั้งเข้าไปดึงข้อมูลที่ได้มาจากเว็บพวกเราเอามาแสดงผลลัพธ์ได้ถูก
เขียนเนื้อหาบทความให้ตอบปัญหา ปริศนาต่างๆในส่วนที่ Google มักแสดงออกมาในตอนที่ค้นหาข้อมูล ตรง People also ask… เนื่องจากโน่นหมายความว่า ยูสเซอร์มักถามคำถามพวกนี้ ถ้าหากบทความสามารถตอบปัญหาพวกนี้ได้ ก็ได้โอกาสที่ Google จะเลือกสรรคำตอบมาเอาไว้ภายในตำแหน่ง Featured Snippets

WEBP

2. WebP Image

WebP Imageหมายถึงไฟล์สกุลภาพแบบหนึ่ง ซึ่งถูกปรับปรุงขึ้นมาโดย Google โดย WebP จะเปลี่ยนเป็นไฟล์สกุลภาพที่แปลงเป็นเทรนด์ในปี 2020 เพราะเหตุว่าจุดเด่นของไฟล์สกุลภาพ ที่ประสิทธิภาพเท่ากันกับ JPEG และก็ PNG นอกเหนือจากนั้นยังสามารถทำเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF ได้เช่นเดียวกัน แม้กระนั้น WebP ยังเป็นไฟล์สกุลภาพที่มีข้อเสียอยู่บ้าง โน่นเป็น โปรแกรมดีไซน์ เป็นต้นว่า Photoshop ยังไม่รองรับไฟล์สกุลนี้ แม้กระนั้นถ้าหากคนไหนอยากใช้งานไฟล์สกุลนี้ ก็สามารถดาวน์โหลด Plug-in ของ Google หรือ โปรแกรม Convert ต่างๆสำหรับใช้งาน WebP ในโปรแกรมวางแบบต่างๆได้

ช่วงเวลาเดียวกันบราวเซอร์ต่างๆเริ่มรองรับไฟล์สกุล WebP เพิ่มมากขึ้น นอกจากก็แค่ Safari ที่ในช่วงเวลานี้ยังไม่อาจจะใช้งาน ที่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้โดยการให้ฝั่งนักเขียนโปรแกรมทำให้เว็บ Detect ไฟล์สกุลภาพ แม้เข้าจาก Safari สกุลภาพก็จะแปรไปเป็นสกุลเดิม เพื่อสามารถโหลดภาพได้ธรรมดา

3. Voice Search

อีกหนึ่งเทรนด์ SEO ในปี 2020 เป็นการค้นหาข้อมูลด้วยเสียง ครั้งก่อนนั้น ถ้าใช้ Voice Search บางทีอาจเจอปัญหาว่า กล่าวถึงแล้ว อุปกรณ์ไม่รู้เรื่อง ไม่อาจจะทำค้นหาในสิ่งที่ต้องการทราบได้ เนื่องจากภาษาที่กล่าวออกไป กับ ภาษาที่โปรแกรมรับทราบไม่เหมือนกัน แม้กระนั้นขณะนี้ Voice Search สามารถค้นหาด้วยภาษาพูดของคนเราได้มากขึ้นแล้ว สามารถบอกแบบสบายๆรวมทั้งโปรแกรมสามารถค้นหาตามภาษาพูดของยูสเซอร์ได้มากขึ้น ทำให้การใช้แรงงาน Voice Search จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

Voice Search จะเริ่มมีลักษณะเป็นปริศนาที่ถามยาวมากเพิ่มขึ้น แล้วก็เมื่อกระทำการค้นหาข้อมูลโดยการเสนอคำถามด้วยเสียง ก็จะก่อให้เจอกับ Featured Snippets ซึ่งความพิเศษเป็น เมื่อถามด้วยเสียง Google ก็จะตอบกลับด้วยเสียงเช่นเดียวกัน โดย Featured Snippets ที่รองรับเสียง ก็จะตอบกลับเป็นเสียง หรือ อ่านใจความบน Featured Snippets ให้นั่นเอง

สถิติพบว่า Voice Search จะมีการค้นหาด้วยปริศนาหรือใจความที่ยาวกว่าการใช้ Text ค้นหา นอกนั้นยังสามารถใช้ Voice Search ก่อให้เกิดการซื้อของได้ ดังเช่น ใช้ Voice Search โดยค้นหาว่า มามีโปะโกะราคาเท่าใด Google จะแสดงผลลัพธ์เว็บมีขายออกมาแสดงผลลัพธ์ , มามีโปะโกะราคาไม่แพงที่สุด Google จะแสดงผลลัพธ์ร้านขายของที่มีขายมาให้เลือกโดยทันที หรือถ้าหากถามคำถามว่า มามีโปะโกะไหนราคาไม่แพงที่สุด Google จะแสดงแผนที่มาให้เลือกด้วยเลย

4. AI

ถึงแม้ AI บางทีอาจไม่ใช่สิ่งที่ใหม่ แต่ว่า AI จะแปลงเป็นสิ่งที่อยู่กับพวกเราถัดไปในอนาคต Google ได้ประกาศตัวว่าเป็น AI First Company tools ฉะนั้นทุกไอเท็มของ Google ก็เลยมีการนำ AI เข้ามาเกี่ยวโดยตลอด

มีคำบอกเล่าหนึ่งที่ว่า AI จะรักพวกเรา ก็เมื่อคนอื่นๆรักพวกเราก่อน
AI Only loves you when everyone else loves you first

ซึ่งนั่นถือว่า ถัดไป สิ่งที่ควรจะทำเป็น บทความที่ทำให้ยูสเซอร์ได้ประโยชน์ เมื่อยูสเซอร์กระปรี้กระเปร่ากับบทความของพวกเรา AI ก็จะมีความรู้สึกว่าบทความพวกเรานั้นเป็นประโยชน์ด้วยด้วยเหมือนกัน

AI เป็นสิ่งที่ Google ประยุกต์ใช้สำหรับในการประเมินผลเพื่อใส่ความตั้งมั่นของยูสเซอร์ มองว่ายูสเซอร์อยากทราบอะไรจริงๆโดยที่พวกเราจะไม่อาจจะ Optimize ถัดไปได้แล้ว

มุมมองของการใช้ AI จะไม่อาจจะ Optimize ได้แล้ว เหตุเพราะ AI จะเลือกสรรสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับยูสเซอร์ ทำให้แนวทางการทำ SEO ไม่ใช่เพียงแค่การใส่คีย์เวิร์ดย้ำในบทความเพียงอย่างเดียว แต่ว่าการ Optimize ที่ดีเยี่ยมที่สุดหมายถึงการเขียนรายละเอียดให้ออกมาธรรมชาติที่สุดและก็มีคุณประโยชน์ที่สุด เพื่อ AI เลือกสรรรายละเอียดนั้นออกมาแสดงผลลัพธ์

ในเมื่อแนวทางการทำ SEO ยุคนี้ไม่ใช่เพียงแค่การให้ความใส่ใจกับ “คีย์เวิร์ด” แม้กระนั้นยังมีส่วนประกอบอื่นที่จำต้องคิดถึงอย่างรอบด้าน แล้วคุณ…พร้อมต่อกรกับเทรนด์ที่แปรไป แล้วหรือยัง

Annotations เป็นเคื่องมือที่สำคัญ แต่ไม่มีใครรู้จัก

Annotations เป็นเคื่องมือที่สำคัญ แต่ไม่มีใครรู้จัก

Google Analytics มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยทำให้พวกเราสามารถเขียนโน้ตเล็กๆเอาไว้ที่แผนภูมิได้ เป็นโน๊ตใจความที่กล่าวว่าณ เวลานั้นมีการเปลี่ยนหรือมีกิจกรรมอะไรที่บางทีอาจจะมีผลต่อข้อมูลที่พวกเรากำลังประเมินผลอยู่ อุปกรณ์นี้เรียกว่า Annotations หากว่ามันจะเป็นอุปกรณ์เบื้องต้นแต่ว่าผู้คนจำนวนมากก็ชอบละเลยและไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมัน เนื้อหานี้ผมจะชี้แจงวิธีการใช้งานรวมทั้งคุณประโยช์จากมันกันนะครับ

Annotations เป็นยังไงและก็มีสาระยังไง

หากจะให้ชี้แจงกล้วยๆผมต้องการให้คุณลองคิดดูขณะที่คุณเข้า Google Analytics เพื่อเข้าไปมอง Report ต่างๆในหน้าเพจของแต่ละ Report นั้นจะมีแผนภูมิที่แสดงค่าของข้อมูลอยู่เหนือตารางประเมินผล ลองนึกภาพในเวลาที่คุณดูกราฟนั้นย้อนไปกลับไปหลายๆวัน คุณเคยสงสัยไหมว่าเพราะเหตุใดค่าของข้อมูลในบางวันก็เลยพุ่งปรี้ดสูงไม่ปกติ หรือเพราะเหตุไรบางวันข้อมูลก็เลยตรงลดน้อยลงอย่างไม่ปกติ โน่นก็เป็นเนื่องจากในบางครั้งอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่างกับเว็บหรือทำบางอย่างกับ Media ที่พวกเราใช้

อาทิเช่นสมมุติว่าผมกำลังดูกราฟที่แสดงข้อมูลย้อนไปของ Session ที่เข้าชมเว็บของผมอยู่นั้น ผมก็สังเกตว่าจู่ๆปริมาณ Session เมื่อวันที่ 5 Jul ตรงลงไปจวนเจียนเกือบจะเป็น 0 โน่นเป็นเพราะว่าตอนนั้นผมกระทำปรับปรุง Code ข้างหลังบ้านบางส่วนกระทั่งทำให้ Analytics Tag ไม่สามารถที่จะสะสมข้อมูลได้ ในกรณีนี้ถ้าเกิดผมไม่ทำ Annotation เอาไว้ ในอนาคตเมื่อผมย้อนกลับมาดูกราฟนี้อีกที ผมบางทีอาจจะจำไม่ได้ว่าในเวลานั้นมันมีอะไรเกิดขึ้นกับเว็บเพราะเหตุไรอยู่ดีปริมาณ Session ก็เลยตกวูบดิ่งไป

นี่เป็นประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจาก Annotation ครับผมมันจะช่วยทำให้พวกเราเขียนบันทึกไว้ในแผนภูมิได้ว่าในเวลานั้นๆพวกเรากระทำการเปลี่ยนหรือทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง ซึ่งในอนาคตในช่วงเวลาที่พวกเราย้อนกลับไปดูกราฟจะได้ลำดับสถานะการณ์แล้วก็หาเรื่องผลการเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างแม่นยำ

จะใช้ Annotation ได้ยังไง

วิธีการใช้ Annotation ก็ง่ายดายมากอะไรเลยนะครับ เพียงเข้าไปใน Report ที่พวกเรามองข้อมูลตามธรรมดาแล้วกดที่ลูกศรเลื่อนลง (ข้างล่างของแผนภูมิ) แล้วคลิกที่ Create new annotation
เลือกวันที่ แล้วใส่เนื้อความที่จะโน๊ตลงไป หลังจากนั้นในส่วน Visibility พวกเราสามารถเลือกได้ว่าจะแชร์ให้คนอื่น(ผู้ที่มีสิทธิเข้าถึง Analytics ไอดีเดียวกัน) อ่านด้วยได้หรือเปล่าหรือจะเป็นแบบ Private เป็นอ่านส่วนตัวของพวกเรา ต่อจากนั้นให้กดที่ปุ่ม Save เพื่อบันทึก Annotation
เมื่อกด Save เป็นระเบียบแล้ว จะมีเครื่องหมายคำพูดเล็ก โพล่ขึ้นมาในแผนภูมิ ซึ่งพวกเราสามารถกลับมาอ่านได้ในคราวหลังว่าในแต่ละช่วงมีการทำกิจกรรมใดลงไปบ้าง
พวกเราสามารถนำเอา Annotation ไปปรับใช้ได้ในหลายๆเหตุการณ์ โดยยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ปฏิบัติงานกับเว็บขนาดใหญ่ที่จะต้องมีข้างที่เกี่ยวโยงหลายๆข้างกับการเข้ามาทำ Analyse ข้อมูลใน Google Analytics การใส่ Annotation เอาไว้จะช่วยทำให้ชี้แจงคนอื่นก้าวหน้ามากมายๆและก็ตั้งแต่นี้ต่อไปเป็นแถวทางแบบอย่างครับผม

กระทำการเปลี่ยนเกี่ยวกับ Code เบื้องหน้าเบื้องหลังเว็บ
ออกแคมเปญทางการตลาดใหม่
เพิ่ม Budget สำหรับเพื่อการซื้อโปรโมทผ่าน Media ต่างๆ
บันทึกความเคลื่อนไหวหลักๆเป็นลำดับขั้นของเวลา
หวังว่าจะเป็นแถวทางให้ผู้ที่ใช้ Google Analytics เอาไปใช้คุณประโยชน์กันมากขึ้นเรื่อยๆครับ